กรดไขมันทรานส์ (Trans fat)
ไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเท่านั้น
ยังเป็นตัวช่วยเร่งผิวหนังถูกทำลายจากรังสียูวี..มีงานวิจัยในหนูทดลอง
มาแล้ว
วายร้ายในอาหารที่รู้จักกันดีก็คือ
“กรดไขมันทรานส์” (Trans fat) ซึ่งมักพบในเนยเทียม ขนมกรุบกรอบ
หรืออาหารทอด ความร้ายกาจของกรดไขมันทรานส์ไม่ได้มี
เพียงการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
แต่ยังอาจส่งผลให้ผิวหนังถูกทำลายโดยรังสียูวีจาก
แสงแดดมากขึ้นดังงานวิจัยในหนูทดลองที่ตีพิมพ์ใน Food and Chemical
Toxicology เมื่อปีที่แล้ว
คณะนักวิจัยจากบราซิลแบ่งหนูทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 14 ตัว
กลุ่มที่หนึ่งเสริมน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมกา-6
กลุ่มที่สองเสริม น้ำมันปลา ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมกา-3
กลุ่มที่สามได้รับน้ำมันพืช ที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ซึ่งน้ำมันพืชดังกล่าวเป็นแหล่งของกรดไขมันทรานส์
กลุ่มที่สองเสริม น้ำมันปลา ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมกา-3
กลุ่มที่สามได้รับน้ำมันพืช ที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ซึ่งน้ำมันพืชดังกล่าวเป็นแหล่งของกรดไขมันทรานส์
การเสริมไขมันแต่ละประเภททำในปริมาณ 3
กรัมต่อน้ำหนักตัวหนู 1 กิโลกรัม และทำในช่วงที่หนูตั้งท้องและให้นมลูก
(รวมเป็นเวลา 43 วัน) จากนั้นลูกของหนูกลุ่มดังกล่าว (รุ่นที่ 1)
ได้รับการเสริมไขมันอย่างเดียวกับแม่ของมัน จนกระทั่งมันมีลูก (รุ่นที่ 2)
ซึ่งหลังจากหย่านม ก็ได้รับการเสริมไขมันอย่างเดียวกับแม่ของมัน
นักวิจัยจึงนำหนูรุ่นที่ 2 จำนวนครึ่งหนึ่งของแต่ละกลุ่มไขมัน (7 ตัว)
ไปรับการฉายแสงยูวีสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์
หลังจากจบสัปดาห์ที่ 12 สภาพผิวหนังของหนูทดลองแต่ละกลุ่มจึงถูกประเมิน
ผลการศึกษาพบว่า..ผิวหนังของหนูทดลองที่ได้รับ
ไขมันทรานส์มีริ้วรอยมากกว่าหนูทดลองกลุ่มอื่นๆ
กรดไขมันทรานส์ทำให้อนุมูลอิสระในผิวหนังมีมากขึ้น
และลดความแข็งแรงของไมโตคอนเดรียซึ่งเป็นองค์ประกอบของเซลล์ที่มีหน้าที่สำคัญในการสร้างพลังงาน
ในขณะที่หนูที่ได้รับน้ำมันปลาจะมีระดับเอนไซม์คาตาเลสซึ่งเป็นส่วนประกอบของระบบต้านอนุมูลอิสระในผิวหนังสูงขึ้น
การศึกษานี้จึงเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ยืนยันถึงความน่ากลัวของกรดไขมันทรานส์
ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่ม ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเท่านั้น
หากยังทำให้ผิวหนังถูกทำลายด้วยรังสียูวีได้ง่ายขึ้น
และที่สำคัญผลของการรับประทานกรดไขมันทรานส์ยังสืบทอดไปยังลูกได้อีก
(ลูกได้รับกรดไขมันทรานส์จากแม่ผ่านการดื่มนมแม่
แล้วกรดไขมันทรานส์ในอาหารก็ถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ผิวหนัง)
สุขภาพผิวที่ดีจึงไม่ได้ขึ้น
กับการประทินผิวจากภายนอกเพียงอย่างเดียว
หากแต่ความงามจากภายในด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัยก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักไว้
เพราะผลเสียไม่ได้ตกอยู่ที่เราแต่เพียงผู้เดียว
Cr.http://www.pandank.com/trans-fat/