loading...

Tuesday, January 24, 2017

Newssky

ทำขนาดนี้แล้วมาอ้างว่าเข้าใจผิดเนี่ยนะ!!! อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ชี้ ผกก.พัทยา ปกป้องลูกน้องตรวจฉี่สาวที่รถตู้แบบนี้ เข้าข่ายผิดอาญาได้เลย (รายละเอียด)

จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส.มด (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกถูกผู้ชายซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจ และขอตรวจปัสสาวะเหตุการณ์นี้เกิดที่บริเวณหมู่บ้านรุ้งแลนด์ พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพาตนเองซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อไปที่รถตู้ ซึ่งจอดห่างออกไป 300 เมตร พอไปถึงก็พบว่าในรถนั้นมีชายฉกรรจ์หลาย ตนจึงอาศัยจังหวะที่ชายพวกนั้นเผลอแล้วรีบวิ่งหลบหนีมาขอความช่วยเหลือ แล้วเข้าแจ้งความดังกล่าว
พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยความคืบหน้าของคดีล่าสุดว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 ม.ค.  เกี่ยวกับคดีดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิดกัน โดยในช่วงเย็นได้เรียกเจ้าทุกข์และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานในเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นชุด ป.พิเศษโดยมีตำรวจยศดาบตำรวจ และตำรวจอาสา 2 คน ซึ่งจากการพูดคุยสอบถามทางเจ้าทุกข์ก็ไม่ติดใจเอาความ แต่หากเจ้าทุกข์ติดใจเอาความทาง สภ.เมืองพัทยาก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
ในส่วนของเจ้าทุกข์นั้นตกใจและกลัวอย่างมากเพราะว่าตนเองนั้นได้อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว และไม่ทราบว่าทั้งสองคนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่อย่างไร เพราะไม่ยอมแสดงบัตรประจำตัว และในขณะที่เกิดเหตุ เจ้าทุกข์กำลังจะเดินทางกลับที่พักที่อยู่ใกล้ๆแต่บังเอิญได้พบกับเจ้าหน้าที่อาสา 2 คนเรียกตรวจหาสารเสพติด และนำตัวไปที่รถตู้เพื่อรวจค้น แต่เจ้าทุกข์กลัวเลยใช้จังหวะที่เผลอนั้นวิ่งหนีออกมา ก่อนไปแจ้งความดังกล่าว ที่ สภ.เมืองพัทยา
พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่า “ส่วนการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน ซึ่งได้กำชับทุกครั้งอยู่เสมอรวมทั้งตำรวจอาสา ต้องแต่งกายให้แตกต่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ขอโทษประชาชนหรือชาวบ้านที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด นอกจากนั้นในวันพรุ่งนี้ทางผู้บัญชาการภาค 2 เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้เข้าพบในเวลา 13.00 น. ฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากพบเหตุการณ์แบบนี้ให้ขอดูบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่ยอมแสดงบัตรก็ไม่ต้องทำตามคำสั่งและขอให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที” 
ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์แสดงความเห็นในเพจเฟซบุ๊ก  โดยชี้ให้เห็นว่าพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ถูกต้องและอาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญาเสียเอง  “…..ข่าวหญิงสาวคนหนึ่งอายุ 23 ปี ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ว่าถูกชายไทยรูปร่างอ้วน 2 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอตรวจปัสสาวะ บริเวณหมู่บ้านรุ้งแลนด์ พัทยาใต้ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แล้วพาซ้อนท้ายรถจักรยานไปที่รถยนต์ตู้ซึ่งจอดห่างออกไป 300 เมตร ปรากฎว่าภายในรถมีชายฉกรรจ์อีกหลายคน จึงอาศัยจังหวะเผลอวิ่งหลบหนีมาขอความช่วยเหลือ และเข้าแจ้งความดังกล่าว
ต่อมาพันตำรวจเอกอภิชัย กรอบเพชร ผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิดกัน โดยในช่วงเย็นได้เรียกเจ้าทุกข์และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานในเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นชุดปราบปรามพิเศษโดยมีตำรวจยศดาบตำรวจและตำรวจอาสา 2 คน ซึ่งจากการพูดคุยสอบถามทางเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ แต่หากเจ้าทุกข์ติดใจเอาความทาง สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาก็จะดำเนินการตามกฎหมายให้
ถ้าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ก็มีข้อที่น่าสังเกตอยู่หลายประการ คือ
1.ไม่บทบัญญัติของกฎหมายฉบับใดให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจไปขอตรวจปัสสาวะใครก็ได้โดยที่บุคคลนั้นไม่ได้กระทำความผิดต่อกฎหมายใดๆ หรือมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือเคยเกี่ยวข้องยาเสพติดมาก่อน
2.ถ้าจะขอตรวจปัสสาวะจริงเหตุใดเจ้าพนักงานตำรวจจึงไม่แสดงตัวให้ผู้หญิงคนนั้นทราบว่าเป็นเจ้าหน้าตำรวจและไม่นำตัวไปตรวจที่สถานีตำรวจ เหตุใดต้องนำตัวที่รถยนต์ตู้ที่มีผู้ชายอยู่ในรถอีกหลายคนและบุคคลเหล่านั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่
3. การกระทำของเจ้าหน้าตำรวจดังย่อมมีความผิดฐานทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียเสรีภาพและฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 และมาตรา 157 ตามลำดับ
4. ที่ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยากล่าวว่า จากการพูดคุยสอบถามทางเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ แต่หากเจ้าทุกข์ติดใจเอาความทางสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาก็จะดำเนินการตามกฎหมายให้ นั้น แม้ความผิดตามมาตรา 310 เป็นความผิดอันยอมความได้ แต่ความผิดตามมาตรา 157 เป็นความผิดอาญาแผ่นดินแม้เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เจ้าพนักงานตำรวจก็ต้องดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิด  หากเจ้าที่ตำรวจภูธรเมืองพัทยาผู้มีหน้าที่ต้องดำเนินการไม่ดำเนินคดีแก่เจ้าหน้าตำรวจคนดังกล่าวก็จะมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบตามมาตรา 157 เช่นเดียวกัน
Cr:politic.zocialx.com





Subscribe to this Blog via Email :